AI Marketing หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยการตลาดอัจฉริยะ สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย และลดต้นทุนให้น้อยลง ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของผู้คนมากขึ้น และยังเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม ทำให้ AI Marketing มีความน่าสนใจไม่น้อย ถ้าคุณไม่อยากทำการตลาดแบบเดิมๆ มาทำความรู้จัก และมาดูความฉลาดของ AI Marketing ไปพร้อมกันได้ในบทความนี้
ทำความรู้จัก AI Marketing คืออะไร
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันไม่มีใครไม่รู้จัก AI (Artificial Intelligence) หรือในภาษาไทยเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ AI ถูกโปรแกรมขึ้นมาให้สามารถเรียนรู้ และคิดเหมือนกับมนุษย์ สามารถทำงานให้กับมนุษย์ได้
ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจ จึงเริ่มมีการใช้ AI Marketing กันมากขึ้น ซึ่ง AI Marketing คือ การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อตัดสินใจ โดยอิงจากฐานข้อมูล การวิเคราะห์ Data ร่วมกับการสังเกตเทรนด์ของตลาด เหตุผลของธุรกิจที่ใช้ AI ในการตลาด เพราะ AI สามารถประเมินได้อย่างตรงจุดว่าลูกค้าต้องการอะไร และอะไรเหมาะกับกลุ่มลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นธุรกิจจึงสามารถเข้าใจกลุ่มลูกค้า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มยอดขายได้ง่ายๆ ซึ่ง AI จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ และช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานของมนุษย์ลงไปได้อีกเยอะ
จุดเด่นของ AI Marketing
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปการทำการตลาดก็ย่อมเปลี่ยนแปลง เพราะการตลาดแบบออฟไลน์อาจไม่ได้ผลดีเหมือนที่เคย AI Marketing การทำการตลาดแบบใหม่ ที่มีจุดเด่นแตกต่างจากการทำการตลาดแบบปกติ ว่าแต่จุดเด่นเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ
AI ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นขึ้นมาแล้วจบไป แต่ AI มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มขีดศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเราใส่ข้อมูลมากเท่าไร AI ก็จะเรียนรู้มากเท่านั้น รูปแบบการทำงานของ AI จะประกอบไปด้วย Machine Learning และ Deep Learning สำหรับ Machine Learning ระบบคอมพิวเตอร์จะทำการเรียนรู้ด้วยตัวเอง จากแพทเทิร์นข้อมูล และคาดการณ์ผลข้อมูลจากการวิเคราะห์แพทเทิร์นเหล่านี้ได้
Deep Learning subset ของ Machine Learning เป็นการเรียนรู้ของระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ต้องใช้มนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง พูดง่ายๆ ก็คือมีการจำลองโครงข่ายประสาทเทียม ซึ่งมีโครงข่ายซ้อนทับกัน และมีการเรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมาก
ความต้องการของ AI ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การใช้ AI ในการตลาด หรือในด้านอื่นๆ นั่นย่อมทำให้การใช้งานมากขึ้น AI จึงมีการพัฒนาอยู่เสมอควบคู่ไปกับการใช้งานของมนุษย์ มีการรับข้อมูลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เกิดการเรียนรู้อย่างไม่หยุดยั้ง รวมไปถึงทางผู้พัฒนาก็มีการพัฒนาฟีเจอร์ และความสามารถใหม่ๆ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน เพื่อให้ AI ตอบสนองต่อการทำงานได้ดี และแม่นยำมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
AI Marketing ช่วยให้คุณเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ อย่างเช่น “Personalization” คือ การนำเสนอขายสินค้าหรือบริการที่เหมาะกับลูกค้ารายบุคคล หรือกลุ่มลูกค้า คนทำธุรกิจคงไม่อยากให้โฆษณาสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าต้องการไปโผล่ตามเว็บหรือ Social media เพื่อสร้างความรำคาญเปล่าๆ
ซึ่ง AI การตลาดแบบ Personalized Marketing จะเข้าไปสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภค และรู้ว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะสนใจสินค้าประเภทไหน เพื่อทำการตลาดแบบตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ทำงานได้ไม่มีหยุดพัก
มนุษย์ไม่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพักได้ แต่ AI สามารถทำได้ ธุรกิจจึงใช้ AI กับการตลาด เพราะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ประสิทธิภาพไม่ลด และช่วยลดภาระในการทำงานซ้ำๆ เช่น การใช้ AI เพื่อตอบแชตลูกค้า หรือช่วยเหลือลูกค้า เป็นต้น
ใช้ได้กับหลายธุรกิจ
AI มีความยืดหยุ่น สามารถทำงานได้อย่างหลากหลาย มีการเรียนรู้ อัปเดตตัวเองตลอดเวลา สามารถนำไปใช้ได้กับหลากหลายธุรกิจ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการขาย จัดหาโปรโมชันดีๆ ที่มีการวิเคราะห์มาแล้วว่าเหมาะกับกลุ่มลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดขายได้
ประโยชน์ของการใช้ AI Marketing
AI Marketing ตัวช่วยของคนทำธุรกิจ กลยุทธ์การตลาดมาแรงในยุคดิจิทัลที่ช่วยแบ่งเบาภาระงานอันแสนน่าเบื่อของมนุษย์ ทำงานได้ตั้งแต่เรื่องง่ายๆ ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อน
ช่วยคาดเดาพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า
การสำรวจพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าในปัจจุบัน อาจมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในยุคที่มีสินค้า และบริการที่หลากหลาย การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และสื่อโซเชียลต่างๆ ที่ง่ายมาก ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคคาดเดายาก ซึ่งธุรกิจของคุณอาจเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา กว่าจะรู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร การใช้ AI ในการตลาดจึงมีส่วนสำคัญในการช่วยคาดเดาพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า โดยใช้ Statistics Decision Tree โมเดลเลียนแบบการตัดสินใจของมนุษย์ และอาจใช้ AI ในการวิเคราะห์แพทเทิร์น หรือพฤติกรรมการบริโภคเพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาด กระตุ้นยอดขายให้มากขึ้น
ช่วยวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของลูกค้า
AI Marketing Tools จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากจะเป็นตัวบ่งบอกว่าการตลาดแบบไหนได้ผลหรือไม่ได้ผล AI จะเข้าไปวิเคราะห์ติดตามผลแคมเปญต่างๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก ทำให้นักการตลาดสามารถทำการตลาดได้อย่างตรงใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเปรียบเทียบลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ รวมถึงช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนา Customer Experience และดึงดูดให้ลูกค้าเก่าให้กลับมาใช้ซื้อซ้ำได้อีกด้วย
ช่วยให้ยิงโฆษณาแม่นยำมากขึ้น
โฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ความสนใจของลูกค้า แน่นอนว่าอาจสร้างความรำคาญใจ หรือไม่สามารถดึงดูดผู้ซื้อให้มาซื้อสินค้า หรือบริการได้ การยิงโฆษณาจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายในการทำธุรกิจ เพราะต้องคิดเสมอว่าจะทำยังไงให้คนมาซื้อสินค้า และบริการ โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าที่ไม่รู้จัก
เมื่อการตลาดแบบเดิมอาจใช้ไม่ได้ผลอย่างเคย AI Marketing จึงมีส่วนช่วยในการเข้าถึงผู้บริโภคจากความชอบ ความสนใจ และคาดการณ์ว่าผู้ซื้อมีความต้องการที่จะซื้อสินค้าหรือบริการนั้นหรือไม่ จึงทำให้ธุรกิจสามารถยิงโฆษณาได้แม่นยำ และตรงใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ช่วยสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น
AI Customer Experience สามารถทำงานซ้ำๆ แสนน่าเบื่อ แทนมนุษย์ได้ เช่น ตอบคำถามพื้นฐานง่ายๆ เกี่ยวกับธุรกิจแก่ผู้สนใจ ทำให้มนุษย์มีเวลาไปโฟกัสกับเครื่องอื่นๆ ที่มีความซับซ้อนมากกว่า AI ยังสามารถทำงานได้หลากหลาย ครอบคลุมการทำงานต่างๆ ของธุรกิจ ทำงานได้อย่างรวดเร็วแบบไม่จำเป็นต้องหยุดพัก เข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจ ทำงานสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า ช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นต่อธุรกิจของคุณ
ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
AI ช่วยให้คุณรู้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ว่าลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์ หรือส่วนร่วมแบบไหนผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งยังคอยจับตาดูข้อมูลลูกค้าว่าคนไหนน่าจะกลายมาเป็นลูกค้าประจำได้ นอกจากนี้ ตัวช่วยตอบแชตอย่าง AI Chatbots ก็ทำหน้าที่ตอบแชต ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของธุรกิจคุณได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัด และช่วยขยายฐานลูกค้าได้อีกด้วย
ปัจจุบันก็มีหลายธุรกิจที่ใช้ AI ในการตลาด แบบ Try-on ยกตัวอย่าง AI กับการตลาดออนไลน์ เช่น แบรนด์เครื่องสำอางอาจมีการใช้ AI ที่ให้ลูกค้าได้ลองสีลิปสติก หรือบลัช เพื่อดูว่าจะเข้ากับตัวเองไหม หรือแบรนด์เสื้อผ้าบางแบรนด์ก็มีการใช้ Virtual reality ให้ลูกค้าได้ลองเสื้อผ้าก่อนตัดสินใจซื้อ วิธีนี้ช่วยเพิ่มยอดขาย และ Customer Royalty ได้ดีไม่น้อยเลย
เริ่มใช้งาน AI Marketing ได้อย่างไร
AI Marketing มีประโยชน์ในหลากหลายด้าน แต่การใช้เครื่องมือนี้ ก็ต้องมีวิธีการใช้ให้ถูกต้อง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากใครมีความสนใจการใช้ AI ในการตลาด สามารถทำได้ตามขั้นตอน ดังนี้
วางเป้าหมาย
การวางเป้าหมายที่ชัดเจน โดยอาจเริ่มจากการดูว่าแคมเปญ หรือการทำงานส่วนไหนที่ต้องมีการปรับปรุงพัฒนา จากนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญกับ KPI (Key Performance Indicator) หรือตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อที่เราจะสามารถบ่งชี้ได้ว่าแคมเปญนั้นๆ ประสบความสำเร็จแค่ไหน
อย่ามองข้ามความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
ความเป็นส่วนตัวของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม Data Privacy เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของ Data Ethics คุณต้องแน่ใจว่า AI Marketing จะไม่ล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว และโปรแกรม AI ให้รักษาความเป็นส่วนตัวเพื่อรักษาความเชื่อใจของลูกค้า
รวบรวมข้อมูลให้เชื่อถือได้ และมีจำนวนมาก
ก่อนที่จะเริ่มทำ AI Marketing นักการตลาดดิจิทัลจะต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ มีจำนวนมากพออยู่ในมือ ข้อมูลพวกนี้จะเป็นตัวเทรน AI Marketing Tools เพื่อพัฒนา และยกระดับ Customer Experience และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของแคมเปญการตลาด ซึ่งข้อมูล Data เหล่านี้อาจนำมาจาก First Party Data เช่น ข้อมูลโดยตรงจาก CRM ธุรกิจของตนเอง เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก แต่อาจจะมีไม่เพียงพอ ซึ่งจะนำไปสู่ Second Party Data คือ ข้อมูล First Party Data จากพาร์ทเนอร์ และสุดท้ายก็คือ Third Party Data ที่บางครั้งอาจต้องซื้อมา ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีปริมาณมาก แต่ก็ตามมาด้วยคุณภาพที่ไม่มากนัก
ข้อมูลต้องมีคุณภาพ
Machine Learning และ AI Marketing ต้องมีการรับข้อมูล ประมวลผลข้อมูลเป็นจำนวนมาก เพื่อเรียนรู้ และตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง แม่นยำมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ถ้าข้อมูลที่ถูกป้อนไปไม่ถูกต้อง และไม่มีมาตรฐาน การวิเคราะห์ และให้ข้อมูลเชิงลึกก็จะผิดพลาด ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจ และอาจทำร้ายธุรกิจของคุณเสียเอง ดังนั้น จะต้องมีการ Clean Data เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพ ถูกต้อง เกี่ยวข้อง และสดใหม่อยู่เสมอ
ตัวอย่างการใช้งาน AI Marketing
ได้ทำความรู้จักกับ AI marketing กันไปบ้างแล้ว แต่หลายๆ คนอาจจะยังนึกภาพการใช้งาน AI กับการตลาดไม่ออก เห็นภาพการใช้งาน AI ทางการตลาดมากขึ้น มาดูกันดีกว่าว่า ตัวอย่างการใช้งาน AI marketing มีอะไรบ้าง
การใช้ AI เพื่อทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล
ความสามารถของ AI มีความหลากหลายมาก หนึ่งในจุดเด่นของมันก็คือ Face Recognition หรือ Face Detection ซึ่งเป็นความสามารถในการจดจำ ตรวจจับใบหน้า และวิเคราะห์โครงสร้างของใบหน้ากับข้อมูลในฐานข้อมูล หากลูกค้าเดินเข้ามาซื้อของในร้าน จะแสดงผลออกมาผ่านทางหน้าจอว่าลูกค้าคนนี้มีความสนใจในด้านไหน เป็นการนำเสนอสินค้า บริการ และโปรโมชันต่างๆ ในรูปแบบรูปภาพหรือวิดีโอที่วิเคราะห์ออกมาแล้วว่าลูกค้าจะต้องชอบอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลที่น่าสนใจ
การใช้ AI เป็นแชตบอต
AI Marketing ใช้แชตบอตในการช่วยเหลือลูกค้าในการตอบคำถาม หรือให้คำแนะนำ รวมไปถึงการส่งข้อความแบบเฉพาะบุคคลเพื่อนำเสนอสินค้าที่พิเศษตรงใจผู้บริโภคได้อีกด้วย ซึ่งช่วยลดภาระงานของมนุษย์ และสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง
การใช้ AI ช่วยคิดแคมเปญ วางแผนการตลาด
AI ในปัจจุบันมีความสามารถในการทำงานที่ครอบคลุม ช่วยออกไอเดีย คิดแคมเปญ และวางแผนการตลาดให้กับธุรกิจได้ง่ายๆ ให้ข้อมูลเชิงลึก และช่วยในการตัดสินใจวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการวัด Conversion ของลูกค้าที่เข้ามาซื้อ จำนวนลูกค้าที่ซื้อ หรือสร้างยอดขายได้ทั้งหมดเท่าไร รวมไปถึงการดู Customer Journey ว่ากว่าลูกค้าจะซื้อต้องผ่านอะไรมาบ้าง แล้วจะกลับมาซื้อซ้ำ หรือบอกต่อหรือไม่ ในขณะที่ POS System ทำไม่ได้ คือดูได้แค่ผลลัพธ์ว่าซื้ออะไร แล้วนำผลวิเคราะห์เหล่านี้ไปคิดแคมเปญที่ตอบโจทย์ลูกค้า
การใช้ AI ช่วยส่งเมลทางการตลาด
ไม่มีใครไม่อยากถูกเอาใจ หรือมีคนรู้ใจอยู่เคียงข้าง AI การตลาดผ่านการส่งเมลที่ตรงใจลูกค้าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง การใช้งาน AI Marketing ที่ได้ผลดี การส่งอีเมลที่เฉพาะเจาะจงส่งผลให้โอกาสการขายเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจแบบง่ายๆ เลย
การใช้ AI ช่วยคิดเงิน สร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น
Cashier less Checkout ช่วยคิดเงินแบบไม่ต้องมีพนักงาน ลูกค้าสามารถเดินเข้าร้าน เลือกซื้อสินค้า คิดราคา และจ่ายเงินเอง โดยไม่ต้องพูดกับใครเลยก็ได้ ธุรกิจที่นำเอา AI Marketing แบบนี้มาใช้ก็อย่างเช่น Amazon, Walmart หรือ Kroger เป็นต้น
นอกจากนี้ เทคโนโลยี AI ยังสามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าถึงสินค้าที่ลูกค้าสนใจเป็นพิเศษ ไม่ต้องเสียเวลาเดินหาเป็นชั่วโมง ถือเป็นการสร้างความสะดวกสบาย สร้างประสบการณ์การใช้งานที่น่าพึงพอใจให้แก่ผู้ซื้อได้อย่างดีเลยทีเดียว