AI Assistant คืออะไร และตัวอย่างการนำไปประยุกต์ใช้งานในธุรกิจ

ปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่างๆ ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI หรือปัญญาประดิษฐ์ จึงได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน หนึ่งในนั้นคือ AI Assistant ที่ถือเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ สามารถช่วยงานมนุษย์ได้อย่างเต็มรูปแบบ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกันว่า AI Assistant มีความพิเศษอย่างไร และการนำไปใช้งานด้านต่างๆ

รู้จักกับ AI Assistant

AI Assistant คือ เครื่องมือที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการช่วยงานมนุษย์ ทำหน้าที่หลากหลาย เช่น การจัดการตารางเวลา ตอบคำถามอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูล ช่วยงานเอกสาร และประสานงานทั่วไป ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และช่วยให้การทำงานของมนุษย์มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

การทำงานของ AI Assistant

AI Assistant มีหลักการทำงาน คือ การอาศัยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ได้รับการฝึกอบรมโดยใช้ข้อความและข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งโมเดลเหล่านี้ช่วยให้สร้างคำตอบที่สอดคล้องกันและเหมาะสมตามบริบท แม้แต่คำถามที่ซับซ้อนก็ตาม สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนกับเป็นผู้ช่วยส่วนตัว โดยสามารถต้อนรับแขก ให้ข้อมูล แนะนำบริการ และติดต่อประสานงาน นอกจากนี้ยังสามารถโต้ตอบได้อย่างเรียลไทม์ ช่วยให้การสื่อสารและการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น

ประโยชน์ของ AI Assistant

การนำ AI Assistant มาช่วยงานสามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพ และเพิ่มความสะดวกสบายในหลายด้าน ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการช่วยเหลือ และปรับปรุงกระบวนการทำงานในองค์กรและธุรกิจต่างๆ ดังนี้

• ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว โดยการจัดการกับงานที่ซ้ำซาก และปริมาณมาก ช่วยให้ทีมรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยเพิ่มปริมาณผลงานขององค์กรได้มากขึ้น
• ประหยัดเวลา AI Assistant เป็นตัวช่วยในการเร่งดำเนินการงานต่างๆ เช่น การติดต่อประสานงาน การจัดการคนเข้า-ออกสถานที่ เป็นต้น
• ลดต้นทุน ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการเพิ่มจำนวนพนักงาน เพราะไม่ต้องรับเงินเดือน หรือสิทธิพิเศษจากองค์กร ช่วยลดความจำเป็นในการจ้างงานมนุษย์เพิ่มเติม
• ทำงานอยู่เสมอ สามารถสนับสนุนในการทำงานขององค์กรได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน หากเป็นงานที่ต้องบริการลูกค้าก็สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดเวลาในการรอคอยและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

6 ตัวอย่างการนำ AI Assistant ไปใช้ในธุรกิจ

การนำ AI Assistant มาใช้ในธุรกิจเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ด้วยบทบาทที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงการดำเนินงานในหลายด้าน มีดังนี้

1. AI Avatar Assistant ในร้านสะดวกซื้อ

ร้านสะดวกซื้อยุคใหม่อย่าง Lawson ได้มีการนำ AI Avatar Assistant มาปรับใช้ในการบริการลูกค้าผ่านการควบคุม และเคลื่อนไหวของพนักงานจริงในสำนักงานใหญ่ เพื่อสื่อสารและโต้ตอบกับลูกค้าในลักษณะที่เหมือนจริง ซึ่งสามารถตอบคำถามทั่วไป หรือการให้ข้อมูลพื้นฐาน รวมถึงคำแนะนำต่างๆ เช่น สอนการจ่ายเงินผ่านเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ แนะนำสินค้าและโปรโมชันพิเศษ เป็นต้น 

โดยการใช้ Digital Avatar นี้ช่วยให้การให้บริการในร้านสะดวกมีความเป็นมิตร และน่าสนใจยิ่งขึ้น ลดภาระงานที่ต้องใช้พนักงานในการตอบคำถาม และช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการให้บริการลูกค้าในด้านอื่น สามารถเพิ่มความสะดวกสบาย และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. AI Receptionist ในโรงแรม

สิ่งสำคัญเมื่อเข้ามาในโรงแรม คือการต้อนรับเป็นอย่างดี โดยที่แผนกต้อนรับของโรงแรมจะมีหน้าจอแสดง AI Avatar Receptionist ซึ่งเป็นตัวละครเสมือนของพนักงานจริงๆ คอยมอบ PIN เพื่อเข้าห้องพักให้แทนการให้กุญแจ รวมถึงยังมีกล้องที่หน้าจอทำให้พนักงานสามารถมองเห็นผู้เข้าพักได้อีกด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และช่วยให้โรงแรมสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าพักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. AI Assistant ในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์

AI Assistant ในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ มีลักษณะและบทบาทที่เฉพาะเจาะจง เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การเยี่ยมชม และช่วยในการจัดการข้อมูลของงานศิลปะและนิทรรศการ โดยสามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับนิทรรศการและงานศิลปะ จึงสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกและการอธิบายที่ละเอียดเกี่ยวกับงานศิลปะได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเรียนรู้และเข้าใจงานศิลปะได้ดียิ่งขึ้น โดยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เข้าชม ให้สามารถค้นหาข้อมูลและคำแนะนำที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน โดยไม่ต้องพึ่งพาพนักงาน

4. AI Avatar ในโรงพยาบาล

โรงพยาบาลสามารถใช้ AI Avatar เพื่อช่วยงานด้านการให้ข้อมูลสุขภาพแก่ผู้ป่วย โดยมีหน้าที่ตอบคำถามเบื้องต้น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการรักษา แนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด และอธิบายผลข้างเคียงของยา เป็นต้น นอกจากนี้ AI Avatar ยังสามารถทำหน้าที่ในการประสานงานกับผู้ป่วยเพื่อจัดการนัดหมายกับแพทย์ ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ

5. AI Receptionist ในออฟฟิศ

AI Receptionist ในออฟฟิศสามารถช่วยต้อนรับ คัดกรอง และจัดการแขกที่มาติดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหน้าที่เป็น AI Assistant ต้อนรับแขกด้วยข้อความหรือเสียงอัตโนมัติ ตรวจสอบตัวตนหรือวัตถุประสงค์ในการเข้าพบ จัดการคิวเข้าพบ และแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่หรือพนักงานที่เกี่ยวข้อง

6. AI Assistant ในโรงงาน

การมี AI Assistant ในโรงงานสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้โดยการให้คำแนะนำและไกด์ไลน์เกี่ยวกับกฎระเบียบด้านความปลอดภัยแก่พนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงานในไซต์งาน ซึ่ง AI จะทำหน้าที่แจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติในการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และมาตรการด้านความปลอดภัยที่สำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในที่ทำงาน